
เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (Federal Express Corporation) ผู้นำด้านบริการขนส่งสินค้าด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เดินหน้าเป้าหมายความในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าปลอดมลพิษ พร้อมสานต่อความสำเร็จจากการนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาปฏิบัติงานครั้งแรกในปี 2565 ประกาศใช้รถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 4 คัน ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นหนึ่งในความพยายามของบริษัทฯ ในการนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้สำหรับการบริการรับ-ส่งพัสดุ (PUD) ทั้งหมดภายในปี 2583
โดยรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 4 คนันนี้ จะให้บริการรับ-ส่งพัสดุในกรุงเทพฯ และปทุมธานี ครอบคลุมพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นเป็นหลัก ได้แก่ ถนนแจ้งวัฒนะ, ติวานนท์, ลาดพร้าว, รามอินทรา, งามวงศ์วาน, ประเสริฐมนูกิจ, สุคนธสวัสดิ์, ธรรมศาสตร์ และ เชียงราก ด้วยระยะวิ่งสูงสุด 275 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง เพื่อให้การขนส่งถึงมือผู้รับปลายทาง (Last-mile delivery) เป็นไปอย่างง่ายดายและสะดวกยิ่งขึ้น
นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2567 ที่เริ่มให้บริการ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมของ เฟดเอ็กซ์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลงกว่า 153.06 เมตริกตัน และคาดว่าจะลดลงอีกถึง 27.51 เมตริกตันต่อปี หลังการส่งรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 4 คันเข้าให้บริการในประเทศไทย โดยคำนวณจากระยะวิ่งตามเส้นทางขนส่งเมื่อเทียบกับการใช้รถยนต์ดีเซลตามปกติ
ศศธร ภาสภิญโญ กรรมการผู้จัดการ เฟดเอ็กซ์ ประเทศไทย กล่าวว่า เฟดเอ็กซ์ ตอกย้ำเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ เดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลกภายในปี 2583 ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมานี้ นับเป็นก้าวสำคัญในแผนการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป
“การเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีส่วนช่วยผลักดันให้เราปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้า จะช่วยสร้างผลประโยชน์ระยะยาวในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมทั้งส่งมอบการบริการที่ดีและยั่งยืนมากกว่าที่เคยให้แก่ลูกค้าชาวไทยของเราต่อไป” ศศธร กล่าวเสริม
นอกจากนี้ เฟดเอ็กซ์ ได้ริเริ่มโครงการเพื่อยกระดับการปฏิบัติงาน อาทิ การใช้รถยกไฟฟ้าภายในศูนย์บริการ การติดตั้งไฟ LED ประหยัดพลังงาน และการใช้เข็มขัดรัดสินค้าแทนการรัดห่อด้วยฟิล์ม และในปี 2566 เฟดเอ็กซ์ ประเทศไทย ร่วมมือกับ บริษัท เอ็น15 เทคโนโลยี (N15 Technology) ผ่านโครงการขยะกำพร้าสัญจร (Orphan Waste) นำขยะรีไซเคิลจากการขนส่งกว่า 3,500 กิโลกรัม ได้แก่ พลาสติกห่อพัสดุ สติ๊กเกอร์ติดฉลาก และแกนกระดาษ มาคัดแยกและแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงขยะ (Refuse-Derived Fuel: RDF) ด้วยเตาเผาปูนซีเมนต์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการบริหารจัดการขยะเพื่อลดการส่งขยะไปยังหลุมฝังกลบ อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างก๊าซมีเทน เพื่อต่อยอดวิสัยทัศน์รัฐบาลไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและเพิ่มระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ควบคู่กับเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ในปี 26081
อีกทั้ง เฟดเอ็กซ์ ได้เปิดตัวเครื่องมือการติดตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (FedEx® Sustainability Insights) ในประเทศไทย โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดส่งพัสดุที่ผ่านมากับ เฟดเอ็กซ์ ได้ในบัญชีของตน พร้อมนำข้อมูลดังกล่าวมาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจสำหรับตัวเลือกการจัดส่งครั้งถัดไป เพื่อช่วยลดผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดกับสิ่งแวดล้อม
ที่มา: https://newsroom.fedex.com