
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เผยรายได้ครึ่งปีแรกทำรายได้ 10,602.30 ล้านบาท มีกำไร 136.60 ล้านบาท เดินหน้าเปิดบริการส่งต่างประเทศ EMS World ส่งด่วน ทั่วโลก ขับเคลื่อนภาคธุรกิจสู่ตลาดโลก รวมถึงดึงจุดเด่นสำคัญอย่าง เส้นทางการขนส่งที่หลากหลาย การเสริมสร้างความร่วมมือกับการไปรษณีย์ทั่วโลก การดึงเอกชนร่วมปิดช่องว่างการขนส่ง การสร้างพันธมิตรกับกลุ่มแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และการเปิดเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อเสริมประสิทธิภาพการขนส่งระหว่างประเทศ และพาสินค้าของผู้ประกอบการไทยไปทั่วโลก

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า การเติบโต ของเศรษฐกิจดิจิทัลได้ทำให้การค้าออนไลน์และการค้าขายระหว่างประเทศทั่วโลกมีการขยายตัว รวมถึงประเทศไทย ที่ปัจจุบันมีการซื้อขายทั้งภายในและต่างประเทศอย่างคึกคัก และคาดการณ์ว่าตลอดจนถึงสิ้นปี 2567 ตลาดอีคอมเมิร์ซจะมีมูลค่ากว่า 700,000 ล้านบาท จากแรงบวกที่สำคัญนี้ไปรษณีย์ไทยจึงมุ่งที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญผ่านการเป็นแพลตฟอร์มและผู้ให้บริการขนส่งเพื่อรองรับและมอบความสะดวกด้านการขนส่งให้กับคนไทย ซึ่งมีความพร้อมอย่างมากทั้งในด้านเครือข่าย จุดให้บริการ วิธีการขนส่ง รวมถึงความน่าเชื่อถือของงานบริการที่สอดรับกับข้อกำหนดการขนส่งและการค้าทั่วโลก
โดยครึ่งปี 2567 แรก (ม.ค.-มิ.ย.) ไปรษณีย์ไทยทำรายได้รวม 10,602.30 ล้านบาท มีกำไร 136.60 ล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจบริการระหว่างประเทศมีรายได้ 1,293.31 ล้านบาท คิดเป็น 12.20% ของรายได้รวมปลายทางที่ได้รับความนิยมในการส่งระหว่างประเทศ 5 อันดับ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย สินค้าที่นิยมส่ง คือ เสื้อผ้า ขนมและอาหารแห้ง สินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม เอกสาร ของสะสม อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ กลุ่มธุรกิจบริการระหว่างประเทศจะทำรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท โดยบริการหลักที่ทำรายได้ ได้แก่ บริการ EMS World บริการพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ บริการส่งแบบลงทะเบียนระหว่างประเทศ บริการ ePacket

ปัจจุบันเทคโนโลยีทำให้การติดต่อและค้าขายข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ไปรษณีย์ไทยจึงได้วางบริการหลักที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คนไทยและขับเคลื่อนภาคธุรกิจไปสู่ตลาดโลกคือ “EMS World ส่งด่วน ทั่วโลก” โดยบริการนี้ได้รับความนิยมสูงสุดของกลุ่มธุรกิจบริการระหว่างประเทศ ตอบสนองลูกค้าในด้านความรวดเร็วได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ไปรษณีย์ไทยยังมีศักยภาพที่พร้อมจะรองรับการขนส่งระหว่างประเทศ รวมทั้งเพิ่มโอกาสให้กับหลากหลายธุรกิจ ได้แก่
- เส้นทางการขนส่งที่หลากหลาย ทั้งการขนส่งทางอากาศโดยสายการบินพาณิชย์ ทำให้สินค้าและสิ่งของถึงประเทศปลายทางที่อยู่ไกลได้อย่างรวดเร็ว การขนส่งทางภาคพื้น ไปยังปลายทางประเทศเพื่อนบ้านหรือการค้าชายแดน เช่น สปป.ลาว มาเลเซีย การขนส่งทางราง ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาและใช้เส้นทางรางจากไทย – ลาว – จีน ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด และการขนส่งทางเรือ มีเส้นทางการขนส่ง อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเส้นทางนี้จะดำเนินการส่งต่อทางรถยนต์ไปยังเมืองปลายทางในทวีปยุโรปจำนวน 10 ปลายทาง เป็นต้น
- การเสริมสร้างความร่วมมือกับการไปรษณีย์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหภาพสากลไปรษณีย์ Universal Postal Union – UPU การไปรษณีย์สมาชิกอาเซียน ASEANPOST และ ASEANPOST++ (จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย) การไปรษณีย์กลุ่ม KPG (Kahala Posts Group) เพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศให้ดียิ่งขึ้น
- การดึงพันธมิตรร่วมปิดช่องว่างการขนส่งและนำจ่ายปลายทาง โดยร่วมมือกับกลุ่มผู้รับรวบรวม / บริษัทตัวแทนนำเข้าและส่งออก ซึ่งสามารถขนส่งในลักษณะสินค้า cargo พร้อมด้วยการจัดการเอกสาร Airway Bill และดำเนินพิธีการศุลกากรได้ที่ปลายทาง พร้อมด้วยการนำสิ่งของไปฝากส่งกับผู้ให้บริการนำจ่าย ซึ่งอาจเป็นผู้ให้บริการขนส่งเอกชน รวมทั้งผู้ให้บริการไปรษณีย์ด้วยอัตราค่าบริการในประเทศ ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนของการนำจ่ายในประเทศปลายทางถูกลง
- การสร้างพันธมิตรในกลุ่มแพลตฟอร์ม ได้แก่ eBay ซึ่งมีความร่วมมือด้านการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศสำหรับผู้ค้าขายในเอเชียแปซิฟิกผ่านอีเบย์ ซีพาส อีกทั้งยังสนับสนุนผู้ขายไทยด้วยการจัดโปรโมชัน eBay Seller ที่เป็นสมาชิก POST Family ให้ได้รับค่าส่งพิเศษในบริการ ePacket และ EMS World สำหรับปลายทางยอดนิยม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ อิตาลี เยอรมนี และ Amazon FBA ที่กำลังพัฒนาบริการสำหรับผู้ขายสินค้าบนเว็บไซต์ที่ต้องการขนส่งข้ามพรมแดน เพื่อนำส่งสินค้าเข้าคลังในต่างประเทศ โดยจะสามารถฝากส่งผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ไทยที่มีครอบคลุมทั่วประเทศภายในไตรมาส 4 ปี 2567 นี้
- การเปิดเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งได้ประสานงานกับพันธมิตรต่างประเทศ และสายการบินในการสร้างเครือข่ายการขนส่งและให้บริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศไปยังปลายทางต่าง ๆ เพิ่มขึ้น และหาเส้นทางสำหรับปลายทางที่ยังไม่มีบริการเส้นทางบินไป โดยประสานงานกับการไปรษณีย์ที่เป็นประเทศกลางทาง เพื่อขอขนส่งผ่าน ทั้งแบบ closed transit และ open transit เพื่อให้มั่นใจว่า ไปรษณีย์ไทยจะสามารถให้บริการและขนส่งด้วยเครือข่ายไปรษณีย์ที่เชื่อมโยงไปทั่วโลก

“ภาพรวมของการให้บริการส่งระหว่างประเทศของไปรษณีย์ไทยมีจุดแข็งในด้านเครือข่ายในประเทศและระหว่างประเทศที่กว้างไกล ครอบคลุม 205 ปลายทาง 193 ประเทศ สามารถเข้าถึงพื้นที่เฉพาะที่ผู้ให้บริการรายอื่น ๆ อาจยังไม่สามารถเข้าถึงได้ เช่น พื้นที่เกาะ ภูเขา และปลายทางห่างไกล เช่น อียิปต์ เอสโตเนีย อาร์เจนตินา และประเทศที่เป็นเกาะเล็ก ๆ เช่น หมู่เกาะมาร์แชลล์ กวม หมู่เกาะมารีนา ฯลฯ นอกจากนี้ จากข้อบังคับเชิงสังคมของสหภาพสากลไปรษณีย์ ทำให้ไปรษณีย์ไทยมีภารกิจในการให้บริการพื้นฐานเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ (universal postal service) อีกทั้งยังมีความสะดวก ค่าบริการที่จริงใจไม่มีการบวกเพิ่มเติม เช่น Fuel Surcharge ภาษีสนามบิน และยังมีบริการเสริมให้แก่ผู้ประกอบการ อาทิ ระบบเตรียมจ่าหน้า บริการ Fulfilment บริการฝากส่งแบบรวมภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ระบบ IOSS (ยุโรป) ฯลฯ” ไปรษณีย์ไทยมีโปรโมชันเพื่อรองรับการส่งระหว่างประเทศ ได้แก่ ส่วนลด 1- 5% สำหรับสมาชิก POST Family บริการ Courier One Price ส่งด่วนแบบพรีเมียม ฝากส่งเหมาน้ำหนักด้วยกล่องเหมาจ่าย ส่วนลดบริการ Courier Post Document สำหรับกลุ่มลูกค้าบริษัท/ โรงงานอุตสาหกรรม และโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่มีปริมาณฝากส่งจำนวนมาก” ดร.ดนันท์ กล่าวเสริม
ที่มา: www.thailandpost.co.th